กระแสของ โชเซ่ มูรินโญ่ ที่ย้ายไปคุม ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์
กระแสของ โชเซ่ มูรินโญ่ ที่ย้ายไปคุม ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง หลายๆ คนกำลังรอดูว่าเกมแรก ที่เด็ดวิเคราะห์บอล เขาจะพา “ไก่เดือยทอง” ไปเก็บชัยชนะได้หรือไม่
มูรินโญ่ ปัจจุบันอยู่ในวัย 56 ปีแล้วนะครับ ถือว่าเป็นหนึ่งกุนซือที่มีประสบการณ์ เขาคุมทีมดังๆ มาแล้วมากมาย เริ่มตั้งแต่แจ้งเกิดให้ตัวเอง ในการพา เอฟซี ปอร์โต้ เป็นแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ก่อนหน้านั้นก็เคยอยู่กับทีมคู่แข่งอย่าง เบนฟิก้า มา หลังจากครองถ้วยบิ๊กเอียร์ ก็ได้ย้ายเข้ามาอยู่กับ เชลซี ก่อนจะไปทั้ง อิตาลี และ สเปน และกลับมาอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
เท่ากับว่าปัจจุบัน เทรนเนอร์ชาวโปรตุกีส คุมทีมในอังกฤษ มาแล้วทั้งสิ้น 3 สโมสรด้วยกัน ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนที่สูงพอตัวเลยทีเดียว เพราะที่ผ่านมา อาจจะมีกุนซือหลายต่อหลายคนที่สามารถรับงานในเวทีลูกหนัง ที่เด็ดวิเคราะห์บอล แดนผู้ดีมากกว่า 3 ทีมขึ้นไป แต่ก็มีเพียงแค่ไม่กี่คนหรอกนะครับ ที่จะสามารถคุมทีมใหญ่ๆ ทั้งหมดแบบ มูรินโญ่
ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านๆ มา มีผู้จัดการทีมทั้งหมด 29 คนที่ได้โอกาสคุมทีม 3 สโมสรขึ้นไป มีหมดไม่ว่าจะเป็นทีมเล็กทีมใหญ่ ผสมปนเปกันไป วันนี้จะพาไปดูบรรดากุนซือที่เราพอรู้จักกัน ว่าใครบ้างที่ได้คุมทีม 3 สโมสรขึ้นไป และเป็นสโมสรใหญ่ๆ ในช่วงเวลาที่ผ่านมา
กุนซือมากประสบการณ์ ที่เด็ดวิเคราะห์บอล คุมทีมมากกว่า 3 สโมสรในลีกอังกฤษ
1.ราฟาเอล เบนิเตซ (ลิเวอร์พูล, เชลซี, นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด)
เทรนเนอร์ชาวสแปนิช ทำผลงานประสบความสำเร็จกับ บาเลนเซีย จนได้ย้ายเข้ามาสู่ พรีเมียร์ลีกอังกฤษ สโมสรแรกที่เจ้าตัวคุมทีมก็คือลิเวอร์พูลและแน่นอนว่าเขาพา “หงส์แดง” ประสบความสำเร็จ ที่เด็ดวิเคราะห์บอล ด้วยการพาทีมคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก สมัยที่ 5 เมื่อปี 2005
หลังจากแยกทางกับ “เร้ด แมชชีน” ก็ย้ายไปเป็นโค้ชให้กับอินเตอร์ มิลาน ก่อนจะกลับมาคุมทีมชั่วคราวให้กับเชลซี จริงๆ แล้วตั้งใจจะไม่ยกเขาเข้ามาเขียนถึง เพราะการคุม เชลซี หนนี้เป็นเพียงแค่การคุมทีมขัดตาทัพเท่านั้น เขาไม่ได้รับสัญญาถาวร แต่เขากลับพา เชลซี ประสบความสำเร็จ ในรูปแบบแชมป์ นั่นคือฟุตบอล ยูฟ่า ยูโรปาลีก เสียด้วย
หลังจากนั้นในฤดูกาล 2016-17 เขาได้ตัดสินใจเข้ามาคุมทีมนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ดและสามารถพา “สาลิกาดง” คว้าแชมป์ เดอะ แชมเปี้ยนชิพ เลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุดได้ แต่ล่าสุดก็น่าเสียดายที่เขาไม่สามารถขุนนิวคาสเซิ่ล ให้ไปได้ไกลกว่านี้ได้ สืบเนื่องจากปัญหาต่างๆ ภายในทีมเยอะแยะมากมาย
2.เคลาดิโอ รานิเอรี่ (เชลซี, เลสเตอร์ ซิตี้, ฟูแล่ม)
อีกหนึ่งกุนซือมากประสบการณ์ เขารับงานคุมทีมมาแล้วมากมาย โดยเฉพาะทีมในอิตาลี เขาแทบจะเป็นกุนซือมาแล้วทุกๆ ทีม ขณะที่ในประเทศอังกฤษ เขาก็ได้มีประสบการณ์มาแล้ว 3 สโมสรด้วยกัน ในช่วงที่เขาคุม เชลซี เป็นช่วงเวลาตั้งไข่ของ โรมัน อับราโมวิช น่าเสียดายเหมือนกันที่เขาไม่ได้โอกาสให้ทำทีมต่อ สุดท้ายเลยต้องแยกทาง ก่อนที่ เชลซี จะไปเอา โชเซ่ มูรินโญ่ เข้ามา
เทรนเนอร์ชาวอิตาเลียนพาหลายๆ สโมสร ที่เด็ดวิเคราะห์บอล ประสบความสำเร็จ ในระดับหนึ่ง แต่สุดท้าย ก็ยังไปไม่ถึงฝั่งฝัน ด้วยการเป็นแชมป์ลีกสูงสุดของประเทศ สุดท้ายเขาก็ถูกแซวว่ากลายเป็น “ทิงเกอร์แมน” มันก็สิบเนื่องมากจากเขามักจะเป็นคนที่จัดแท็กติก หรือตัวผู้เล่นได้แปลกในบางที ทำให้ถูกแซวว่าคิดมากเกินไป ก็เลยทำให้พลาดแชมป์ลีกไปแทบจะทุกครั้ง แต่ไม่ใช่ในปี 2016
รานิเอรี่ เข้ามารับงานคุมทีมเลสเตอร์ ซิตี้ แทนที่ของ ไนเจล เพียร์สัน ก็ไม่มีใครคิดหรอกครับ ว่าเขาจะพา “จิ้งจอก” ไปได้ถึงขั้นไหน เพราะในซีซั่นก่อนหน้า ทีมยังลุ้นหนีตกชั้นอยู่เลย แต่ที่ไหนได้ เขากลับพาทีมที่ดูไม่มีอะไร แต่เปี่ยมไปด้วยศักยภาพ ที่เด็ดวิเคราะห์บอล คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก มาครองได้สำเร็จ ด้วยตัวผู้เล่นชุดหลัก ที่ได้ลงสนามอย่างต่อเนื่อง ไปจนจบฤดูกาล
หลังจากนั้น ก็เข้ามารับงานให้กับฟูแล่ม หลายๆ คนหวังว่าด้วยฝีมือของเขาจะสามารถพา “เจ้าสัว” รอดตกชั้นได้ แต่โชคร้ายที่ทีมมันไม่ได้ดีพอ ที่เขาจะสร้างปาฏิหารย์ ที่เด็ดวิเคราะห์บอล ได้สำเร็จ สุดท้ายแม้จะพาทีมเก็บชัยชนะได้ แต่สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจแยกทางกันไป
3.เคนนี่ ดัลกลิช (ลิเวอร์พูล, แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส, นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด)
กุนซือคนสุดท้าย ที่พาลิเวอร์พูล เป็นแชมป์ลีกสูงสุด เขาพาทัพ “หงส์แดง” ครองบัลลังก์แชมป์ 3 สมัย (1985-86, 1987-88, 1989-90) ถือเป็นช่วงเวลาแห่งความสำเร็จ ของเขาและทีมเลยทีเดียว หลังจากแยกทางกับ “หงส์แดง” เขาก็ย้ายมาเป็นกุนซือให้กับแบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ซึ่งเขาก็ยังคงยอดเยี่ยมและพา “กุหลาบไฟ” ประสบความสำเร็จอีกครั้ง แถมยังเป็นการเอาชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ของเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เสียด้วย
เขาได้แชมป์เมื่อปี 1995 ก่อนหน้านั้น 3 ปีก่อน เพิ่งจะพา แบล็คเบิร์น ลงเล่นเกมเพลย์ออฟเลื่อนชั้นอยู่เลย เท่ากับว่าเขาประสบความสำเร็จแทบจะทั้งหมดแล้วในเกาะอังกฤษ ฟุตบอลดิวิชั่นหนึ่งเดิม, ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก และฟุตบอล เอฟเอ คัพ
หลังจากนั้นเจ้าตัวไปรับงานที่นิวคาสเซิ่ล ในเดือนมกราคมปี 1997 โดยเป็นการเข้ามาแทน เควิน คีแกน เขาก็ยังพาทีมไปได้ไกล แม้จะไม่ได้แชมป์ แต่ก็คว้าโควต้า ที่เด็ดวิเคราะห์บอล ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก ได้สำเร็จ ด้วยผลงาน ที่เด็ดวิเคราะห์บอล การเป็นอันดับสอง เป็นรองแมนฯ ยูไนเต็ดอยู่ 7 แต้มด้วยกัน
แต่ในซีซั่นถัดมาผลงานของทีมก็ไม่ได้ดีเหมือนเดิม สุดท้ายเขาและทีมจบเพียงอันดับ 13 และมีแต้มเหนือโซนตกชั้นเพียง 4 คะแนนเท่านั้น ทำให้ในฤดูกาล 1998-99 ดัลกลิช ก็ถูกปลด หลังจากพาทีมลงเตะไปเพียงแค่ 2 เกมเท่านั้น ก่อนที่ รุท กุลลิท จะเข้ามาแทนที่
หลังจากนั้น เขากลับไปรับงานให้กับลิเวอร์พูล อีกครั้งเมื่อปี 2009 โดยเริ่มจากการเป็นอคาเดมี่ให้กับราฟา เบนิเตซ แต่ในปีต่อมา เมื่อ “เอล ราฟา” ออกจากทีมไป เขาก็ถูกดันขึ้นมาเป็นกุนซือใหญ่อีกครั้ง แต่คราวนี้เขาพาทีมคว้าแชมป์ได้เพียงลีกคัพ เมื่อปี 2012 เพียงรายการเดียวเท่านั้น
เราจะสังเกตได้ว่า 3 คนนี้ ต่าง ที่เด็ดวิเคราะห์บอล ประสบความสำเร็จ ในการคุมทีม 2 สโมสรแรก แต่พอทีมที่ 3 จบลงด้วยมือเปล่า ด้วยสถานการณ์ที่แตกต่างกันไปและจบไม่ค่อยสวยสักเท่าไหร่ ก็ไม่รู้ว่าทีมที่ 3 ของมูรินโญ่ จะเป็นแบบไหนนะครับ เพราะก่อนหน้านี้ สเปอร์สก็ไม่ได้แชมป์อะไรเลย แม้ว่าทีมจะสามารถยกระดับตัวเอง กลายเป็นทีมขาประจำในเวทีแชมเปี้ยนส์ลีก ได้ สเปอร์ส ที่มักจะมือเปล่า มาโคจรเจอกับกุนซือที่การันตีเรื่องความสำเร็จในรูปแบบถ้วยแชมป์ มันจะออกไปในทิศทางใด น่าลุ้นกันมากเลยทีเดียว ซึ่งสามารถติดตามข่าวความเคลื่อนไหวได้ที่ อัพเดทข่าวฟุตบอลที่น่าสนใจมากมายให้ได้ทราบกัน
ราคาบอล 4ตังค์ ค่าคอม 0.5% ทุกยอดการ
พนันอย่างน้อยเพียงแค่ 10บาท สเต็ปเริ่ม 2คู่
ถ่ายทอดสดในเว็บได้
มีบอลเปิดให้เลือกเล่นแล้วก็พนันมากยิ่งกว่า SBOBET
มวยไทยซึ่งมีการเปิดให้ยกต่อยก
มี 3 คาสิโนชั้นแนวหน้า ให้แก่คุณสามารถเลือกเล่นได้ในเว็บไซต์เดียว เล่นผ่านมือถือได้ทุกระบบ
มีสล็อตเกมส์ให้เลือกเล่นมาก แจ็คพอตแตกเยอะที่สุดเล่นตรงกับ เว็บตรง จบปัญหาหัวข้อการถูกโกง
ระบบมาตรฐาน บริการ ฝาก-ถอน เร็วทันใจ ภายใน 3 วินาที
มั่นใจได้จ่ายจริง 100%
